Tuesday 29 July 2008

เรื่องย่อโจโจ้ซัง

ต่อไปนี้คือเรื่องราวของโศกนาฏกรรม 'โจโจ้ซัง' ที่พอจะให้ทุกคนรับรู้กันได้คร่าวๆนะคะว่าโจโจ้ซังคือใคร แล้วทำไมถึงเป็นเรื่องเศร้า ทำไมไม่เป็นเรื่องสุข??
“Madame Butterfly” เป็นอุปรากรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปุชชินี (Puccini) เป็นที่รู้จัก แพร่หลายมายาวนานกว่า 100 ปี เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ‘พิงเคอร์ตัน’ นายเรืออเมริกันเดินทางโดยเรือรบถึงท่านางาซากิ ‘โกโร’ พ่อสื่อได้ชักนำเขาให้แต่งงานกับ ‘โจโจ้ซัง’ เกอิชาสาว ทั้งจัดการเขียนสัญญาสมรสและเช่าบ้านบนเนินเขาให้
เมื่อ ‘ชาร์พเลส’ กงสุลอเมริกา สหายพิงเคอร์ตัน รู้ว่า ‘โจโจ้ซัง’ สาวงามญี่ปุ่นผู้ได้รับสมญาว่า ‘บัตเตอร์ฟลาย’ เด็กสาวแสนซื่อ ยึดมั่นการสมรสเป็นข้อผูกพันชั่วชีวิต กงสุลอเมริกาจึงอ้อนวอนพิงเคอร์ตัน ให้เลิกล้มการสมรสเสีย ในเมื่อนายเรืออเมริกันไม่คิดจะผูกมัดตัวเอง พิงเคอร์ตันกลับหัวเราะ และว่าชาร์พเลสคิดมากตามประสาคนแก่ ขณะที่พิงเคอร์ตันรู้ด้วยว่า เจ้าสาวของเขาเป็นบุตรีของซามูไร ผู้สูญเสียเกียรติยศ ได้ฮาราคีรีตัวเองอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยความยากจนบัตเตอร์ฟลายจึงถูกมารดาขายให้สำนักเกอิชาตั้งแต่เด็กเพื่อฝึกอาชีพเกอิชา ฝ่ายเจ้าสาวต้องการแสดงความภักดีต่อว่าที่สามี จึงประกาศสละศาสนาและความเชื่อถือในบรรพบุรุษในวันแต่งงาน เพื่อจะได้หมดสิทธิกลับคืนสู่ญาติมิตรชาวญี่ปุ่น สร้างความไม่พอใจให้กับ ‘บอนซ์’ ลุงของบัตเตอร์ฟลาย ที่อยู่ในสมณเพศ ด่าทอและสาปแช่งเธอต่างๆนานาที่เธอสละศาสนา พร้อมบอกให้ญาติๆ ตัดสัมพันธภาพกับเธอ
เมื่อพิงเคอร์ตันปฏิบัติหน้าที่ที่ญี่ปุ่นเสร็จสิ้น ได้เดินทางกลับอเมริกา พร้อมให้สัญญากับบัตเตอร์ฟลาย ว่าจะกลับมาใหม่ เมื่อนก “รอบิน” ทำรังได้ 3 ครั้ง นั่นหมายถึง 3 ปีกระทั่ง 3 ปีผ่านไป พิงเคอร์ตันก็ไม่กลับมาตามสัญญา จน ‘ซูซูกิ’ สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ เริ่มสงสัยว่าบัตเตอร์ฟลายถูกสามีทิ้ง แต่ก็พยายามปลอบนายสาวให้ยึดมั่นในความรัก สวดมนต์ภาวนาให้สามีกลับมา แม้ช่วงนั้นบัตเตอร์ฟลายต้องขัดสนเรื่องเงินทอง ทั้งต้องทนกับเสียงเย้ยหยันจากคนรอบข้างว่าถูกสามีทิ้ง
พิงเคอร์ตันให้ชาร์พเลสนำจดหมายมาให้บัตเตอร์ฟลายเพื่อแจ้งว่า บัดนี้เขาได้แต่งงานใหม่กับหญิงอเมริกัน แต่บัตเตอร์ฟลายอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ได้เห็นจดหมายก็ดีใจด้วยเชื่อว่าเป็นการติดต่อจากสามี ขณะที่ชาร์พเลสก็ได้แต่สงสารบัตเตอร์ฟลายแต่ไม่กล้าเปิดเผยความจริง โกโร พ่อสื่อ ได้พา ‘ยามาโดริ’ เจ้าชายมหาเศรษฐี หนึ่งในชายหนุ่มที่มาติดพันบัตเตอร์ฟลายมาหา แต่นางไม่สนใจ กลับโกรธว่าคนทั้งสองดูถูกในเมื่อนางแต่งงานแล้ว โกโรอธิบายว่าการถูกทอดทิ้งหมายถึงการหย่าร้าง แต่บัตเตอร์ฟลายประกาศอย่างทระนงว่า “นั่นคือประเพณีญี่ปุ่น ดิฉันหาใช่ญี่ปุ่นแต่เป็นอเมริกัน” พร้อมกันนี้ได้นำบุตรชายผมทองมาแสดง พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนี้หรือ สามีดิฉันจะลืมลง”
เรือรบ เอบราฮัม ลิงคอล์น กลับมานางาซากิอีกครั้ง บัตเตอร์ฟลายและซูซูกิ ดีใจเป็นที่สุด พิงเคอร์ตันละอายใจไม่กล้าสู้หน้าบัตเตอร์ฟลาย ให้ชาร์พเลสกลับเข้ามาบอกข่าวร้ายกับสาวใช้ว่า พิงเคอร์ตันมีภรรยาใหม่เป็นอเมริกันชื่อ “เคท” ซูซูกิไปแจ้งนายหญิง พร้อมพาเคทและกงสุลอเมริกาเข้าพบ เพื่อขอร้องให้บัตเตอร์ฟลายยกบุตรให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพิงเคอร์ตัน บัตเตอร์ฟลาย รับความจริงอย่างสงบ และแสดงความยินดีที่เคทมาแทนที่ในฐานะภรรยาของพิงเคอร์ตัน และขอให้เคทไปบอกสามีว่าให้กลับมารับบุตรภายในครึ่งชั่วโมงผู้มาเยือนกลับไป ทิ้งบัตเตอร์ฟลายให้อยู่ลำพังกับบุตร นางรำพันกับบุตรสุดที่รักด้วยความอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง ใช้ผ้าผูกตาเด็กพร้อมส่งตุ๊กตากับธงชาติอเมริกันให้ นางหยิบมีดที่บิดาใช้ทำอัตวินิบาตกรรมออกมาอ่านคำจารึกที่ใบมีด “พึงตายไว้เกียรติตน อย่ามีชนม์เมื่อเกียรติมลาย” แล้วใช้มีดแทงคอตัวเองตาย ปิดฉากความรักอันแสนเศร้า

No comments: